รีวิวหนัง The Sadness (2021)

ประเภทของภาพยนตร์: สยองขวัญ

วันที่เข้าฉาย: 22 มกราคม 2564

ผู้กำกับ: Rob Jabbaz

นักแสดงนำ: Berant Zhu,Regina,Tzu-Chiang Wang

ความยาว : 99 นาที

 

เรื่องย่อ:

ดูหนังเกาหลี เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลในไต้หวันถกเถียงกันเรื่องไวรัสอัลวิน ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อคล้ายกับไข้หวัดใหญ่รัฐบาลปฏิเสธที่จะใช้มาตรการขนาดใหญ่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสอัลวิน และประชาชนทั่วไปจำนวนมากสงสัยว่าไวรัสชนิดนี้มีอยู่จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นักไวรัสวิทยาบางคนกลัวว่าไวรัสชนิดนี้อาจกลายพันธุ์และทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรงได้

จิมและแคท คู่รักหนุ่มสาวในไทเปผ่านที่เกิดเหตุฆาตกรรมเลือดสาดขณะขี่มอเตอร์ไซค์ไปสถานีรถไฟ จิมส่งแคทลงที่สถานีรถไฟแล้วไปที่ร้านกาแฟ หญิงชราที่เปื้อนเลือด ตาสีดำ และท่าทางคลุ้มคลั่ง ทำร้ายลูกค้าร้านกาแฟคนอื่น ถ่มน้ำลายข้นๆ ใส่คนหนึ่ง และเผาพนักงานด้วยน้ำมันปรุงอาหารร้อนๆ ก่อนจะฉีกหน้าเขาขาด

ชายที่เธอถ่มน้ำลายใส่ก็จู่โจมลูกค้าอีกคนด้วยมีดอย่างกะทันหัน ผู้หญิงคนนั้นไล่ตามจิมไปบนถนน ซึ่งเธอถูกรถชนโดยชายที่มีอาการเดียวกับเธอ จิมวิ่งหนีกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขาโดยถูกคนในพื้นที่ที่ติดเชื้อไล่ตาม เขาส่งข้อความหาแคทให้รออยู่ที่เดิม พร้อมสัญญาว่าจะช่วยเธอ เพื่อนบ้านของเขาจึงโจมตีเขาโดยใช้กรรไกรตัดหญ้าตัดนิ้วของเขาขาดสองนิ้วจิมสามารถหลบหนีได้โดยใช้ผ้าปิดบาดแผล

ในระหว่างนั้น รถไฟของแคทถูกโจมตีโดยชายติดเชื้อสองคนซึ่งแทงผู้โดยสารด้วยมีดและแพร่เชื้อให้คนอื่น รวมถึงนักธุรกิจวัยกลางคนที่เพิ่งสารภาพกับเธอว่าเขาหลงใหลในตัวแคท ขณะที่ผู้โดยสารที่ติดเชื้อรายใหม่ข่มขืนและฆ่าคนอื่นๆ แคทก็หนีออกจากรถไฟพร้อมกับมอลลี่ ผู้หญิงที่ถูกนักธุรกิจแทงที่ตาหลังจากที่เขาติดเชื้อ

นักธุรกิจไล่ตามพวกเขาไปทั่วสถานีรถไฟด้วยขวาน ซึ่งเขาใช้ขวานฆ่าชายกล้ามโตที่พยายามปกป้องพวกเขา แคทและมอลลี่หนีออกจากสถานีรถไฟได้อย่างหวุดหวิดในขณะที่พนักงานชื่อเควินปิดทางเข้า ซึ่งเขาบอกว่าเขาทำตามคำสั่งของตำรวจ แม้ว่าจะหมายถึงการขังพวกเขาไว้ข้างในกับนักธุรกิจก็ตาม

แคท มอลลี่ และเควินมาถึงโรงพยาบาลซึ่งเต็มไปด้วยผู้ที่ได้รับอันตรายจากผู้ติดเชื้อ รัฐบาลออกอากาศข้อความฉุกเฉินพร้อมคำมั่นว่าจะควบคุมสถานการณ์ แต่แม่ทัพที่ติดเชื้อหันกลับมาและสังหารประธานาธิบดีด้วยระเบิดมือทางโทรทัศน์สด ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเริ่มตื่นตระหนก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียสมาธิ

ขณะเดียวกันนักธุรกิจและผู้ติดเชื้อคนอื่นๆ ก็พังประตูเข้ามา แคทหนีเข้าไปในช่องบันไดขณะที่นักธุรกิจพบมอลลี่นั่งรถเข็นและข่มขืนบาดแผลที่ตาของเธอ ทำให้เธอติดเชื้อในขณะที่เควินซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ จิมหนีไปที่ชานเมือง เดินผ่านฉากซาดิสต์ระหว่างทาง เขาติดต่อแคท ซึ่งบอกเขาว่าเธออยู่ที่ไหน ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน เขาเริ่มร้องไห้และเห็นภาพหลอนว่าหัวหุ่นที่ถูกทิ้งกำลังเลียเลือดและเหงื่อของเขา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขาติดเชื้อ

นักธุรกิจยังคงติดตามแคทไปตามทางเดินของโรงพยาบาล แต่เธอกลับดักโจมตีเขาและทุบหัวเขาด้วยถังดับเพลิง เธอได้รับการช่วยเหลือจากผู้ติดเชื้อคนอื่นๆ โดยอลัน หว่อง แพทย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหลังคลอด อลันอธิบายว่าเขาพยายามค้นหาวิธีรักษาไวรัสอัลวิน ซึ่งในรูปแบบกลายพันธุ์นั้น เชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของสมองที่ควบคุมความต้องการทางเพศและความก้าวร้าว เขาตั้งทฤษฎีว่าผู้ติดเชื้อร้องไห้เพราะพวกเขาตระหนักถึงสิ่งเลวร้ายที่พวกเขาทำ

แต่ไม่สามารถหยุดได้เลย โดยเปรียบเทียบมันกับการต่อต้านความต้องการที่จะกระพริบตา เมื่อแคทพบทารกที่ติดเชื้อในถังขยะทางการแพทย์ อลันจึงฉีดไวรัสให้กับเธอเพื่อดูว่าเธอมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสหรือไม่ เขาเปิดเผยว่าเขาเคยทำการทดสอบแบบเดียวกันนี้กับทารกที่ถูกทิ้งไว้ในหอผู้ป่วย แต่ทารกทั้งหมดติดเชื้อ และเขาถูกบังคับให้ทำการุณยฆาตพวกเขา เขาบอกว่าเขาจะฆ่าแคทถ้าเธอติดเชื้อ แต่จะไม่ทำร้ายเธอถ้าไม่ติดเชื้อ เพราะนี่เป็นสัญญาณว่าภูมิคุ้มกัน ของเธอ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งไวรัสได้

แคทใช้โทรศัพท์ของเควินส่งข้อความบอกตำแหน่งของเธอให้จิมซึ่งเพิ่งมาถึงโรงพยาบาล เมื่อเธอไม่แสดงอาการของไวรัส แอลันก็ปล่อยเธอและเรียกเฮลิคอปเตอร์ทหารมาคุ้มกันทั้งคู่ไปยังสถานที่ปลอดภัย เขาเตือนเธอว่าทหารจะไม่ช่วยเธอถ้าไม่มีเขา ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่หลังคา ผู้ติดเชื้อสองคนก็โจมตีพวกเขา แอลันจัดการฆ่าพวกเขาได้แต่ได้รับบาดเจ็บ จิมมาถึงและเปิดเผยว่าเขาติดเชื้อ หลังจากต่อสู้กัน

เขาก็ฆ่าแอลันที่เพิ่งติดเชื้อ ซึ่งสารภาพในลมหายใจสุดท้ายว่าเขาสนุกกับการฆ่าเด็กๆ แคทขโมยกุญแจของแอลันและขังจิมไว้ข้างนอกช่องบันไดไปยังหลังคา จิมบอกเธอว่าการติดเชื้อทำให้รู้สึกดี และเขาคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรที่รักใคร่ไปกว่าการทำร้ายและฆ่าเธอ แคทเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง คาดว่าน่าจะเกิดจากความเสียหายทางจิตใจจากสิ่งที่เธอประสบมา

แม้ว่าจะมีนัยว่าเธอไม่ได้มีภูมิคุ้มกันและติดเชื้อ เธอวิ่งขึ้นบันไดและผ่านประตูที่นำไปสู่หลังคา เมื่อประตูปิดลงด้านหลังเธอ เสียงปืนกลดังขึ้น บ่งบอกว่าเธอเสียชีวิตแล้ว จิมได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการกระทำของอลัน เขาจึงนั่งพิงประตูบันไดและเสียชีวิตด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:

The Sadnessเป็นหนังที่มีความรุนแรงและโหดร้ายอย่างไม่เกรงใจใคร เป็นหนังที่สะเทือนอารมณ์และชวนหดหู่ ครั้งแรกที่ฉันดูหนังเรื่องนี้ซึ่งออกฉายทาง Shudder ใช้เวลานานเกือบสามชั่วโมงครึ่งเพราะท้องของฉันไม่อาจทนกับเลือดและความรุนแรงที่เกินจริงได้The Sadness ส่วนใหญ่ เป็นหนังที่เน้นการปฏิบัติจริงและช่วยเพิ่มความสมจริงเหนือจริงให้กับความโกลาหลนี้ ถ้าคุณมีเพื่อนที่บอกว่าสามารถดูหนังเรื่องไหนก็ได้ ไม่ว่าหนังจะโหดหรือรุนแรงขนาดไหนThe Sadnessจะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีเยี่ยม

ฉากที่โดนร่มแทงตา โดนกรีดคอ โดนทรมานด้วยอวัยวะเพศชายและลูกอัณฑะ มีการแทงหลายร้อยครั้ง ถูกตัดนิ้ว โดนระเบิดปาก และอื่นๆ อีกมากมาย ฉากความรุนแรงแต่ละฉากทำหน้าที่เสมือนการวอร์มร่างกายเพื่อเตรียมฉากความรุนแรงต่อไป โดยพยายามเอาชนะฉากหลังๆ ให้ได้ 99 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณดูจบในพริบตา  2umv.com

ไวรัสในภาพยนตร์เรียกว่าไวรัสอัลวิน และถึงแม้จะไม่ใช่ไวรัสประเภท COVID แต่ก็ก่อให้เกิดผลกระทบบางอย่างที่เราพบเห็นจาก COVID แม้ว่าจะเป็นเพียงในระดับที่น้อยกว่า แต่ฉันจำได้ว่าไปที่ร้านขายของชำในสัปดาห์ที่สามหรือสี่ของการล็อกดาวน์และดูชายวัย 20 ปีผลักหญิงชราด้วยรถเข็นของเขาเพื่อหยิบกระดาษชำระแพ็คสุดท้าย

ข้อความเบื้องหลังThe Sadnessนั้นเป็นข้อความแบบเอาหรือไม่เอา หากคุณต้องการอ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะพบคำวิจารณ์ทางสังคมมากมาย แต่หากคุณต้องการชมภาพยนตร์เลือดสาด คุณจะไม่รู้สึกแย่กับเรื่องราวที่น่าเบื่อมากนัก

นี่เป็นหนังซอมบี้หรือเปล่า คนที่ติดเชื้อไวรัสแห่งความโกรธถือเป็นซอมบี้หรือเปล่า ฉันถือว่าหนังไวรัสแห่งความโกรธเป็นหนังซอมบี้ และนั่นอาจทำให้แฟนพันธุ์แท้ของซอมบี้บางคนไม่พอใจ สำหรับฉัน ซอมบี้ไวรัสแห่งความโกรธน่ากลัวกว่ามาก เพราะพวกมันยังมีสติสัมปชัญญะในระดับหนึ่งสำหรับการกระทำกึ่งรู้คิดของมัน ไวรัสอัลวิน

ซึ่งคล้ายกับไวรัสในหนังMayhem ของโจ ลินช์ หรือPrimal Rage ของวิตโตริโอ แรมบาล ดี ทำลายการยับยั้งชั่งใจทั้งหมดจากสมองของโฮสต์ และทำให้พวกมันแสดงพฤติกรรมรุนแรงที่สุดได้ มีนักวิจารณ์และผู้ชมภาพยนตร์บางคนตำหนิหนังเรื่องนี้ว่าใช้การล่วงละเมิดทางเพศ และแม้ว่าฉันจะไม่ชอบเห็นการล่วงละเมิดทางเพศในภาพยนตร์ (นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่ามันถูกแสดงออกมาและถูกใช้เป็นอุปกรณ์ดำเนินเรื่องมากเกินไป) แต่มันก็เข้ากับไวรัสประเภทเดียวกับไวรัสอัลวิน

ในฐานะผู้ชมภาพยนตร์ ฉันมองหาภาพยนตร์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ภาพยนตร์ที่ก้าวข้ามเงาของภาพยนตร์อื่นๆ ในประเภทเดียวกัน เพื่อก้าวข้ามขอบเขตและแตกต่างออกไป ดังที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อบทวิจารณ์นี้ The Sadness เป็นภาพยนตร์ที่ไม่มีอะไรหวือหวา แต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ด้วยฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นและเลือดสาดหลายพันแกลลอน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึง ถือเป็น คู่แข่งตัวฉกาจของภาพยนตร์ที่โหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่มีมา

#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #TheSadness

กลับด้านบน